SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization หมายถึงวิธีการปรับแต่งโครงสร้างหน้าตาเว็บไซต์ การปรับแต่งโค๊ด ปรับแต่งความเร็วในการเข้าถึงเว็บไซต์ และการเขียนเนื้อหาให้เป็นไปตามความต้องการของ เว็บ Search Engine เช่น เว็บ Google, Bing เป็นต้น ซึ่งผลลัพธ์ปรับแต่งเว็บไซต์ของการทำ SEO จะทำให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับอยู่ในลำดับต้นๆ ของผลการค้นหา ด้วยคีย์เวิร์ด (Keyword) หรือคำค้นหาที่คุณต้องการและเกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ ในส่วนของการแสดงผลลัพธ์เว็บไซต์จะปรากฏบนเว็บ Search Engine ทางด้านซ้ายของ Search Engine ซึ่งการแสดงผลจะแสดงหน้าละ 10 อันดับ หน้าแรก (อันดับ 1-10) และ หน้าที่สอง ( อันดับ 11-20) ซึ่งการทำ SEO ที่ดีและได้ผลนั้นเว็บที่ทำ SEO ควรที่จะอยู่หน้าแรกแต่ไม่ควรอยู่เกินหน้าที่ 2 ซึ่งจะได้รับการเข้าเยี่ยมชม บ่อยครั้งมากที่สุด ยิ่งอันดับสูงเท่าไรอัตรการคลิกเข้าสู่เว็บก็สูงขึ้นเท่านั้น
Category: Community
ขั้นตอนเขียน Content อย่างไรให้แซ่บโดนใจลูกค้า
ถ้าเปรียบบทความหรือ Content เหมือนอาหารสักจาน พวกเราคิดว่าอาหารแบบไหนจึงจะถูกใจคนทานครับ !!! วันนี้ผมอยากจะลองทำเมนูมาเสริฟกับผู้อ่าน สำหรับการเตรียมการปรุงความแซ่บให้กับ Content ก่อนที่เราจะลงมือปรุง เสริฟให้กับลูกค้าของเรา ไม่ว่าจะผ่านทาง website หรือ Social Media ต่างกันกันครับ ก่อนปรุงคอนเทน เราต้องเตรียมอะไรบ้าง ? 10 ขั้นตอนการเขียน Content อย่างไรให้โดนใจ 1.ต้องรู้ก่อนว่าผู้อ่านบทความเราเป็นใคร อย่างแรกเลยทีเดียวเราต้องรู้ว่าลูกค้าหรือคนอ่านบทความของเราเป็นใคร ผมยกตัวอย่างหากเราเปิดร้านส้มตำไก่ย่าง เราก็ต้องรู้ว่าลูกค้าเราเป็นใครใช่ไหมหละ รู้ว่าเขาชอบรสชาติแบบไหน ตำไทย ตำปูปลาร้า ฯ มันคงไม่ใช่เรื่องที่น่าดูนักที่หากเรานำร้านส้มตำแบบเพิงข้างทางไปวางบนห้างสยามพารากอน หรือจัดแต่งร้านหรูแบบสยามพารากอนไปเปิดแถวโรงงานย่านสมุทรสาครฯ มันเป็นเรื่องเดียวกันครับ “อาหาร” กับ “บทความ” ต้องวางให้ถูกที่เสริฟให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย แล้วจะตรงกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างไร นี่แหละครับคือสิ่งแรกที่เราจะต้องทำคือ “กำหนดกลุ่มลูกค้า” ให้ชัดเจนก่อนที่จะลงมือทำสูตรอาหาร ลงมือเขียนบทความ 2.กำหนดหัวข้อบทความให้กระตุกสายตา กระชากอารมณ์ คราวนี้มาเปิดดูเมนูอาหารกันครับ เอาร้านส้มตำนี่แหละ เมนูเขียนว่า “ส้มตำปลาร้า” กับ “ส้มตำปลาร้าไฮโซ” ,”ส้มตำปลาร้าโลโซ” อย่างไหนทำให้เราสะดุดตาและอยากลองชิมมากกว่ากันครับ ผมว่าหลายคนอยากรู้ว่า ไอ้เจ้า… Continue reading ขั้นตอนเขียน Content อย่างไรให้แซ่บโดนใจลูกค้า
พรีเซนต์ให้โดนใจผู้ฟัง
เราอยากจะเป็นคนพรีเซนต์งานที่พูดได้อย่างมั่นใจ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ดีอย่างที่ใจคิด แต่เชื่อเถอะว่า ปัญหานั้นจะอยู่กับเราไม่นาน หากมีการฝึกฝนที่ดี เหมือนกับคำพูดภาษาอังกฤษที่ว่า “Practice Makes Perfect” เมื่อเราฝึกบ่อย ๆ เราก็จะทำได้ดีขึ้นมาเอง แม้ว่าอาจจะต้องใช้เวลาหน่อย แต่หากลองฝึกตามขั้นตอนเหล่านี้ เราก็จะพรีเซนต์งานได้อย่างน่าประทับใจแน่นอน เพิ่มความกล้า พิชิตความกลัว ก่อนที่จะก้าวไปสู่ขั้นตอนอื่น ๆ ของการฝึกฝน เราต้องขจัดความกลัว ความประหม่า ที่มีอยู่ในตัวเราให้น้อยลงเสียก่อน ความตื่นเต้นอาจจะมีได้ แต่ต้องไม่มากจนเกินไป และต้องเป็นความตื่นเต้นที่อยากจะมานำเสนองาน หรือข้อมูลใหม่ ๆ ให้คนอื่นได้รับรู้ ไม่ใช่ความตื่นเต้นที่มาจากความประหม่า เมื่อเราเอาชนะความกลัวได้แล้ว เราก็จะพรีเซนต์งานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างแน่นอน เตรียมข้อมูลให้พร้อม เราจะไม่สามารถพรีเซนต์งานให้ผู้ฟังเกิดความประทับใจได้เลย หากเราเตรียมข้อมูลมาไม่ดีพอ การพูดติด ๆ ขัด ๆ ยังน่าฟังเสียกว่าการตอบคำถามที่ไม่มีข้อมูลใด ๆ การสร้างข้อมูลขึ้นมาเอง หรือการตอบเพียงว่า “น่าจะเป็นอย่างนั้น น่าจะเป็นอย่างนี้” จะทำให้ผู้ฟังเกิดความรำคาญ และไม่วางใจในข้อมูลที่เรากำลังจะนำเสนอ… Continue reading พรีเซนต์ให้โดนใจผู้ฟัง
SEO คืออะไร
SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization หมายถึงวิธีการปรับแต่งโครงสร้างหน้าตาเว็บไซต์ การปรับแต่งโค๊ด ปรับแต่งความเร็วในการเข้าถึงเว็บไซต์ และการเขียนเนื้อหาให้เป็นไปตามความต้องการของ เว็บ Search Engine เช่น เว็บ Google, Bing เป็นต้น ซึ่งผลลัพธ์ปรับแต่งเว็บไซต์ของการทำ SEO จะทำให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับอยู่ในลำดับต้นๆ ของผลการค้นหา ด้วยคีย์เวิร์ด (Keyword) หรือคำค้นหาที่คุณต้องการและเกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ ในส่วนของการแสดงผลลัพธ์เว็บไซต์จะปรากฏบนเว็บ Search Engine ทางด้านซ้ายของ Search Engine ซึ่งการแสดงผลจะแสดงหน้าละ 10 อันดับ หน้าแรก (อันดับ 1-10) และ หน้าที่สอง ( อันดับ 11-20) ซึ่งการทำ SEO ที่ดีและได้ผลนั้นเว็บที่ทำ SEO ควรที่จะอยู่หน้าแรกแต่ไม่ควรอยู่เกินหน้าที่ 2 ซึ่งจะได้รับการเข้าเยี่ยมชม บ่อยครั้งมากที่สุด ยิ่งอันดับสูงเท่าไรอัตรการคลิกเข้าสู่เว็บก็สูงขึ้นเท่านั้น
ยอดขายที่มาจากตัวสิ่งของ
การจัดวางสินค้าบริเวณหน้าร้านมีความสำคัญกว่าที่หลายๆ คนคิด เพราะสินค้าหน้าร้านเป็นตัวแทนสำคัญที่จะดึงดูดใจให้ลูกค้าเข้ามาเลือกชมสินค้าอื่นๆ ภายในร้านของเราต่อ แต่ข้อผิดพลาดที่หลายๆ ร้านทำกัน คือไม่ติดราคาสินค้าให้ชัดเจน ทำให้เสียลูกค้าไปโดยใช่เหตุ เพราะลูกค้าบางคนรู้สึกอายที่จะเข้ามาถามราคาเลยเดินจากไป โดยที่ไม่ได้ซื้อของอะไรติดไม้ติดมือ ดังนั้น ทางร้านควร “ติดราคาสินค้าให้ชัดเจน” เพราะถึงแม้สินค้าจะมีราคาแพง แต่ถ้าลูกค้าสนใจสินค้าของเราจริงๆ พวกเขาก็จะหาทางมาซื้อสินค้าของเราจนได้
ชื่อเสียงจากผลิตภัณฑ์
ขั้นตอนต่อไปคือเดินออกจากความคิด ปล่อยตัวเราออกจากความคิด และมองดูมันอย่างที่มันเป็น มันก็แค่ความคิด ก็เป็นแค่อารมณ์ เราต้องแยกคนคิดออกจากความคิด ปล่อยให้เกิดช่องว่างระหว่างความรู้สึกกับการตอบสนอง จะทำให้เราเห็นหนทางหลายๆ แบบที่เราจะรับมือกับสถานการณ์ได้ ทำให้เราหลุดจากการควบคุมและทำให้เราไม่อยู่ใต้อำนาจของอารมณ์ การเปลี่ยนมุมมอง การดีดตัวและมองออกไป ทำให้เราเรียนรู้ที่จะมองตัวเองเหมือนกระดาน ทำให้เราเห็นความเป็นไปได้ที่มากขึ้น แทนที่จะเป็นแค่หมากในกระดาน ที่ถูกกำหนดทางเดินไว้แล้ว
ความสำเร็จเกิดจากอะไร?
ความคล่องแคล่วทางอารมณ์เป็นกระบวนการที่ทำให้เราอยู่กับปัจจุบัน ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่จะทำให้เราใช้ชีวิตในแนวทางที่ตรงกับความตั้งใจและคุณค่าของเรา โดยที่ไม่ปฎิเสธอารมณ์ร้ายหรือความคิดแย่ๆ แต่ก็ไม่ยึดติดกับมัน กล้าที่จะรับมือกับมัน จากนั้นค่อยเดินหน้าต่อไป ก้าวข้ามมันไปเพื่อเปิดโอกาสให้สิ่งดีๆ เกิดขึ้นกับชีวิตเราได้ การที่จะทำให้เราสามารถมีความคล่องแคล่วทางอารมณ์ได้นั้น จะต้องมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
อะไรคือ Customer Centric และ ทำไมต้อง Customer Centric ?
หลังจากที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับบริษัทต่างๆ มาหลายบริษัทมุกเองพบว่าพวกเรามักจะเจอคำถามนึงที่จะถูกถามอยู่บ่อยครั้ง เวลาที่พวกเราแนะนำตัวเอง นั่นก็คือ อะไรคือ Customer Centric และ ทำไมต้อง Customer Centric ? วันนี้เลยอยากมาแชร์มุมมองความคิดของเราต่อ Customer Centric ที่หลายคนอาจเคยได้ยินและรู้จักแล้วหรือใครที่ยังไม่เคยรู้จักมาก่อนได้ฟังกันนะคะ ในมุมมองของเราเลยนะคะ มองว่า Customer Centric มันไม่ใช่แค่กลยุทธ์ทางการตลาด แต่มันถือว่าเป็นวัฒนธรรม มันเป็น Mind set ที่ทุกๆ องค์กรควรจะมีและนำไปพัฒนาต่อยอดและปฎิบัติกันเลยทีเดียวค่ะ ไม่ว่าจะเป็นทีมขาย ทีมบัญชี หรือแม้แต่ทีมผู้บริหารเองก็ควรนำหลักการ Customer Centric นี้ไปใช้เช่นกัน สิ่งสำคัญเลยคือทุกคนในองค์กรต้องมองลูกค้าออกมาเป็นลูกค้าคนเดียวกันก่อน จากนั้นทำความรู้จักและเข้าใจความรู้สึกของลูกค้าที่ขององค์กรของคุณให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทุกคนในองค์กรไม่ว่าจะทำงานเบื้องหน้าหรือเบื้องหลังควรมีกระบวนการความคิดที่นำ ‘ลูกค้า’ มาเป็นหัวใจหลักในกระบวนการทำงาน ขอยกตัวอย่างนะคะ ถ้าทีมเซลไม่ทำความรู้จักกับลูกค้าหรือไม่เข้าใจอารมณ์ความชอบหรือสิ่งที่ลูกค้าสนใจ ทีมเซลก็จะไม่สามารถเข้าใจได้ว่าควรเสนอสินค้าอะไรที่จะเพิ่มคุณค่าหรือสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าคนนั้นได้ หรือแม้แต่ทีมบัญชีทีมหลังบ้านของเรา ก็สามารถใช้ Mind set Customer Centric นี้ได้เช่นกัน เช่น การออกใบสั่งซื้อ ใบเสร็จ ที่ต้องแก้ไขหรืออธิบายกันยาวเหยียดยังไงก็ยังไม่เข้าใจระหว่าง Vender กับ บริษัท… Continue reading อะไรคือ Customer Centric และ ทำไมต้อง Customer Centric ?